การพัฒนาอาหารและผลิตภัณฑ์
ในฐานะผู้นำการผลิตและส่งออกอาหารระดับโลกที่มีกลุ่มผู้บริโภคอยู่ในประเทศอาเซียนและอีกกว่า 35 ประเทศทั่วโลก บริษัทฯ จะต้องติดตามและเข้าใจแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคและความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงการตระหนักด้านความมั่นคงทางอาหาร ในเสาหลักกลยุทธ์ “การพัฒนาคุณภาพอาหารและผลิตภัณฑ์” บริษัทฯ ทุ่มเทให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่ผ่านมา และสร้างความโดดเด่นให้กับตนเองด้วยการบูรณาการนวัตกรรมที่มุ่งเน้นความยั่งยืนในทุกมิติของธุรกิจของบริษัทฯ เปิดโอกาสและขยายพื้นที่ให้กับพนักงานในการสร้างสรรค์ผลงานและนวัตกรรมผ่านเครือข่ายนวัตกรรมไทยวา ที่ช่วยพัฒนากระบวนการผลิต และผลิตภัณฑ์แป้ง ผลิตภัณฑ์อาหาร และผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพให้ดียิ่งขึ้น
นวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อความยั่งยืน
ไทยวา วางรากฐานเพื่อผลักดันการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยการสร้าง “เครือข่ายนวัตกรรมไทยวา” ในประเทศต่างๆ ที่เรามีโรงงานและสำนักงานดำเนินงานอยู่ ได้แก่ ประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ ให้ความสำคัญเรื่องคุณค่าทางโภชนาการ รวมถึงความสะดวกและง่ายต่อการนำไปประกอบอาหาร
โดย Innovation Hub ตั้งอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อศึกษาและวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในห้อง Lab ที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย Ideation Hub ที่ออฟฟิศสาทร เพื่อสร้างสรรค์เมนูอาหารใหม่ๆ จากผลิตภัณฑ์ของไทยวา และ Application Center ที่ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และจีน เพื่อเป็นพื้นที่ในการทดลองผลิตภัณฑ์และทดสอบตลาดในประเทศนั้นๆ่ ให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ตรงต่อความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
ในธุรกิจแป้ง บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ทางเลือกตามความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคดังนี้
- ผลิตภัณฑ์ทางเลือกเชิงฟังก์ชั่น (Functional Solutions) – ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีเสถียรภาพและเป็นที่ต้องการด้วยส่วนผสมประสิทธิภาพสูง
- ผลิตภัณฑ์ฉลากสะอาด (Clean Label) – สร้างผลิตภัณฑ์ด้วยส่วนผสมที่เรียบง่าย และแสดงฉลากได้อย่างชัดเจน
- ผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ (Healthy Solutions) – ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพและเชื่อถือได้ด้วยส่วนผสมเฉพาะทางโภชนาการ
บริษัทฯ ตั้งมั่นส่งเสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีและยั่งยืนยิ่งขึ้น ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชหลากหลายชนิด ที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน เพื่อเสริมสร้างสุขภาพของผู้บริโภค ปกป้องสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการเกษตรยั่งยืน การใช้นวัตกรรมล่าสุดจากการวิจัยและพัฒนาของบริษัทฯ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้มีประโยชน์ต่อสังคมทางด้านโภชนาการและสิ่งแวดล้อม เป็นกลยุทธ์ในการส่งเสริมสุขภาพของผู้บริโภค และความมั่นคงทางอาหาร
ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของธุรกิจแป้ง | |||||
---|---|---|---|---|---|
ประเภท | จำนวน | ||||
2563 | 2564 | 2565 | 2566 | เป้า 2567 | |
ผลิตภัณฑ์ทางเลือกเชิงฟังก์ชั่น | 55 | 58 | 63 | 64 | 65 |
ผลิตภัณฑ์ฉลากสะอาด | 6 | 19 | 20 | 20 | 20 |
ผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ | 6 | 19 | 22 | 22 | 22 |
ในปี 2566 ธุรกิจอาหารของไทยวา ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ เพิ่มทางเลือกในการรับประทานให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาด ดังนี้
แบรนด์ ROSECO มีกลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันตามความต้องการใช้งาน ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ROSECO ได้รับการทดสอบการย่อยว่าสามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติตามาตรฐานสากลทั้ง Home Compost และ Industrial Compost Cerificate ซึ่งระยะเวลาการย่อยสลายจะขึ้นอยู่กับส่วนผสมและสูตรที่แตกต่างกันไปตามการใช้งาน หรือความต้องการ วัสดุทางเลือกทดแทนพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ ไม่เพียงแต่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังปลอดภัยและเชื่อถือได้
หนึ่งในการใช้งานของพลาสติกที่แพร่หลายในอุตสาหกรรมการเกษตรคือฟิล์มคลุมดินพลาสติกเพื่อส่งเสริมผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งโดยส่วนใหญ่ผลิตขึ้นจากโพลีเอทิลีน (Polyethylene: PE) ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ทางธรรมชาติ ก่อให้เกิดปัญหาเศษพลาสติกในพื้นที่การเกษตร และหากกำจัดไม่หมดหรือไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดไมโครพลาสติกอีกด้วย ดังนั้น ROSECO จึงนำเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมด้วยพลาสติกคลุมดินแบบย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (ฺBiodegradable plastic mulches: BDMs) เพื่อทดแทนฟิล์มคลุมดินที่เป็นโพลีเอทิลีน ซึ่งพลาสติกคลุมดินแบบย่อยสลายได้ทางชีวภาพสามารถไถพรวนลงดินในที่ที่มีการใช้งาน เพื่อให้เกิดการย่อยสลายทางชีวภาพในดิน นอกจากนี้ การทดสอบผลแสดงประโยชน์ในการเพิ่มผลผลิต เพิ่มอัตราการรอดตาย และการลดการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช รวมถึงการลดการใช้น้ำในกระบวนการเพาะปลูกอีกด้วย
ไทยวา เข้าใจดีว่าบรรจุภัณฑ์มีความสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ การขนส่ง และการกำจัด ล้วนแล้วแต่มีความเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพในกระบวนการบรรจุสินค้า การใช้งาน และการขนส่ง การปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ช่วยให้บริษัทฯ เพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดปริมาณวัสดุของบรรจุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็น และยังเป็นการลดต้นทุนการผลิตอีกด้วย ในปี 2566 ไทยวา มีการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์เพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนี้
- การใช้ลังกระดาษรักษ์โลก Green Carton
การใช้ลังกระดาษรักษ์โลก Green Carton ยกระดับการปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยเปลี่ยนมาใช้ลังกระดาษรักษ์โลกสำหรับบรรจุและจัดส่งผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อส่งออกของบริษัทฯ ลังกระดาษนี้ช่วยลดการใช้กระดาษได้ถึง 25 กรัมต่อตารางเมตร ทั้งยังแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักซ้อนทับและปกป้องได้ดี ซึ่งบริษัทฯ สามารถลดปริมาณการใช้กระดาษไม่รีไซเคิลที่ใช้ในการทำบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษได้ถึงประมาณ 117 ตันต่อปี
- การปรับแนวทางการบรรจุผลิตภัณฑ์เพื่อลดปริมาณการใช้กระดาษ
การปรับแนวทางการบรรจุผลิตภัณฑ์เพื่อลดปริมาณการใช้กระดาษ ปรับแนวทางการใช้บรรจุภัณฑ์ ซึ่งลดปริมาณกระดาษไม่รีไซเคิลที่ใช้ในการทำบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษลงได้มากถึง 12 ตันต่อปี การปรับแนวทางดังกล่าวนี้ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดต้นทุนด้านทรัพยากรเท่านั้น หากแต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการขนส่งอีกด้วย
- การลดปริมาณพลาสติกที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหาร
การลดปริมาณพลาสติกที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหาร เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างแนวปฏิบัติที่มีความยั่งยืน บริษัทฯ สามารถลดปริมาณการใช้พลาสติกได้ทั้งหมด 5.7 ตันต่อปี และด้วยน้ำหนักที่ลดลง ทำให้บริษัทฯ สามารถประหยัดต้นทุนด้านพลังงานในการขนส่งได้เช่นกัน
- การออกแบบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์แป้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์แป้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง รูปแบบเดิมของการบรรจุผลิตภัณฑ์แป้งลงถุงจะทำให้ถุงมีลักษณะเช่นเดียวกับหมอน ซึ่งไม่สามารถรองรับการบรรทุกซ้อนพาเลทคู่ที่มีประสิทธิภาพได้ ดังนั้น ไทยวา จึงได้ใช้บรรจุภัณฑ์แบบใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์แป้งของเราที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพในการขนส่ง ความเสถียรในการเคลื่อนย้าย การประหยัดต้นทุนแรงงาน และเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า
การรับรองมาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
ไทยวา ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวด พิถีพิถันในทุกขั้นตอนให้แน่ใจว่าทุกกระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับ ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล
ในปี 2566 บริษัทฯ ได้รับการรับรองจากมาตรฐานในระดับประเทศและระดับสากลมากมาย ดังนี้
*มาตรฐานที่ได้รับแตกต่างไปในแต่ละโรงงาน
การประเมินความพึงพอใจของลูกค้า
ในขณะที่บริษัทฯ ขยายการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ขอบเขตการสำรวจก็ขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บริษัทฯ เข้าใจความต้องการและความสนใจของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้บริษัทฯ มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ ตรงตามมาตรฐานสูงสุด เพื่อความพึงพอใจของลูกค้าอยู่เสมอ แบบสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจแป้งและธุรกิจอาหารระหว่างประเทศ และธุรกิจอาหารในประเทศ
- ธุรกิจแป้งและธุรกิจอาหารระหว่างประเทศ
วิธีการ – แบบสำรวจออนไลน์ด้วยตนเองโดย Nielsen IQ
หัวข้อในแบบสอบถาม – 1) ปัจจัยการซื้อ 2) คุณภาพของผลิตภัณฑ์ 3) บรรจุภัณฑ์และการติดฉลาก 4) ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ 5) การบริการและการสนับสนุน 6) การจัดส่ง
คะแนนความพึงพอใจโดยรวม
2564 | 2565 | 2566 | เป้า 2567 | |
---|---|---|---|---|
ธุรกิจแป้งและธุรกิจอาหารระหว่างประเทศ (%) | 83 | 88 | 90 | 90 |
ในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งพันธกิจพัฒนาต่อเนื่องด้านความรวดเร็วในการสื่อสารและให้ข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคได้รับการตอบสนองความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้บริษัทฯ จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการบริการหลังการขาย ด้วยการพัฒนาขีดความสามารถด้านการบริการ รวมทั้งการรักษาประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ และบริการด้านการจัดส่งสินค้าของบริษัทฯ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด
- ธุรกิจอาหารในประเทศ
วิธีการ – โทรศัพท์สอบถามโดยตัวแทนจากทีมขาย
หัวข้อแบบสอบถาม – 1) ความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์โดยรวม 2) คุณภาพของผลิตภัณฑ์โดยรวม 3) คุณภาพของบรรจุภัณฑ์โดยรวม 4) ความพึงพอใจในการจัดส่งสินค้าโดยรวม 5) ความพึงพอใจในบริการการขายโดยรวม 6) ความพึงพอใจทางการตลาดโดยรวม 7) ความพึงพอใจในการส่งเสริมการขายโดยรวม และ 8) ความพึงพอใจโดยรวม
คะแนนความพึงพอใจโดยรวม
2564 | 2565 | 2566 | เป้า 2567 | |
---|---|---|---|---|
ธุรกิจอาหาร (%) | 85 | 91 | 89 | 91 |
ไทยวา เจาะลึกความคิดเห็นของลูกค้าและผู้บริโภค ทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกังวลที่แสดงออกมาอย่างครอบคลุม และด้วยเหตุนี้จึงสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การตลาดโดยรวม เป็นสิ่งที่ลูกค้า ให้ความสำคัญมากที่สุด ในปี 2566 นอกจากนี้ทีมขายและฝ่ายผลิตของบริษัทฯ ยังมีการประชุมประจำเดือน หารือเกี่ยวกับความคิดเห็นของลูกค้าและผู้บริโภค ระบุจุดที่ต้องปรับปรุงและตกลงร่วมกันเกี่ยวกับเป้าหมายที่จะพยายามทำให้สำเร็จ การประชุมดังกล่าวช่วยให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองต่อความคิดเห็นของลูกค้าในเชิงรุกได้ และมั่นใจได้ว่าความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคจะได้รับการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด